ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 169
จากนั้น ทรงมีพระราชบัญชาให้เหล่าเสนาตระเตรียมกองทัพใหญ่ ๑๘กองทัพ พร้อมกับให้สัญญาณแก่พระราชาทั้งร้อยเอ็ดพระองค์ว่า “ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะร่วมใจกันเด็ดหัวศัตรูผู้ขลาดเขลา เมื่อเผด็จศึกได้แล้ว เราถึงจะกลับมาดื่มฉลองชัยบานกันให้มโหฬารทีเดียว” สิ้นพระกระแสรับสั่งของพระเจ้าจุลนี กองทัพทั้งหมดก็เคลื่อนพลออกจากปัญจาลนครทันที
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 166
มโหสถระดมคนงานราว ๖,๐๐๐คน ให้ช่วยกันขุดกรวดทรายและดิน ขนออกมาด้วยกระทงหนังขนาดใหญ่ แล้วเทลงในแม่น้ำจนน้ำขุ่นคลัก แม่น้ำนั้นก็ไหลผ่านไปถึงปัญจาละนคร ชาวเมืองต่างได้รับความเดือดร้อน ก็พากันบ่นอุบว่า “โธ่เอ๋ย ไม่น่าเลย ตั้งแต่มโหสถมานี่ ยังไม่ทันไร ก็สร้างความลำบากให้พวกเราเสียแล้ว น้ำขุ่นคลักอย่างนี้ พวกเราจะไปหาน้ำใสๆ ดื่มกินกันได้ที่ไหน”
ร่างกายดำรงภาวะปกติได้อย่างไร
การที่ร่างกายดำรงภาวะปกติได้นั้น อวัยวะทุกส่วนจะต้องทำงานพร้อมกันเป็นปกติ และต้องทำงานประสานสัมพันธ์กันเป็นอย่างดีเมื่อเจาะลึกเข้าไปในหน่วยย่อยของภายในของอวัยวะ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 172
คำกราบบังคมทูลที่สั้นๆ หนักแน่น และจริงจังของมโหสถบัณฑิต ทำให้พระเจ้าวิเทหราชนั้นทรงตกพระทัยกลัวจนแทบครองพระสติไม่อยู่ เกิดความเร่าร้อนในพระสรีระกาย จนปราณแทบจะดับลงในทันที จึงทรงครวญคร่ำรำพันไปต่างๆนานาว่า “มโหสถเอ๋ย ใจของเราเสียวสั่น สะท้านไหว เหมือนใบโพธิ์ที่ต้องลม บัดนี้ความเร่าร้อนได้เผาลนจิตใจของเราจวนเจียนจะละลาย เหมือนเบ้าหลอมทองที่ถูกสุมอยู่ในเตา"
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 178
ขณะนั้น พระเจ้าจุลนีเสด็จขึ้นสู่พระคชาธาร พระองค์ทรงสวมฉลองพระองค์ด้วยเกราะแก้วประดับเพชรมณี พระหัตถ์ทรงศร ประทับสง่าเหนือคอพระคชาธารซึ่งทรงพละกำลังมหาศาล พลางมีพระบัญชาสั่งขบวนพลทุกกองทัพ ทั้งพลช้าง พลม้า พลรถ พลราบ และกองขมังธนู ประชุมพร้อมกันเพื่อเตรียมเผด็จศึกทันที
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 149
พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับคำตอบของอาจารย์เสนกะ ก็ทรงดีพระทัยยิ่งนัก ท้าวเธอจึงลองตรัสถามอาจารย์ที่เหลือตามลำดับ ครั้นแล้วก็ทรงได้รับคำตอบในทำนองเดียวกันทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดกราบทูลทัดทานเลย เมื่อเป็นดังนี้ ท้าวเธอก็ทรงคลายความระแวงพระทัย และทรงปักพระทัยมั่นที่จะเสด็จไปปัญจาลนครตามคำทูลเชิญของพระเจ้าจุลนี
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 157
สาลิกาฟังคำของสุวโปดกแล้ว ก็ไม่สบายใจ รีบห้ามผู้เป็นสามีทันทีว่า “เรื่องอัปมงคลเช่นนี้ ทำไมพี่จึงมากล่าวในวันมงคลของเราเล่า พี่สัญญากับน้องแล้วมิใช่หรือว่า จะกล่าวเฉพาะเรื่องที่เป็นมงคลเท่านั้น”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 161
ฝ่ายพระเจ้าจุลนีพรหมทัต ทรงสนพระทัยติดตามข่าวคราวของมโหสถอยู่ทุกระยะ เมื่อทรงสดับว่า บัดนี้ ขบวนของมโหสถบัณฑิตเข้าสู่ภายในเมืองแล้ว ท้าวเธอก็ยิ่งทรงโสมนัสยินดี พระพักตร์ผ่องใสด้วยทรงดำริว่า “มโหสถเอย เจ้าดิ้นรนมาหาคมดาบของข้าแท้ๆ อีกไม่ช้าข้าก็จะได้เห็นหลังของเจ้าล่ะ เมื่อเจ้ามา วิเทหราชก็ต้องมาแน่"
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 170
เมื่อทหารเหล่านั้น นำเสด็จกษัตริย์ทั้งสี่พระองค์มาถึงเชิงบันได ก็ช่วยกันเปิดปากประตูอุโมงค์ แล้วทูลเชิญให้เสด็จพระดำเนินไปตามเส้นทางนั้น เมื่อเสด็จเข้าไปสู่ภายในอุโมงค์แล้ว พระนางทอดพระเนตรเห็นทางลับนั้น ก็ทรงมีพระทัยพิศวงยิ่งนัก ถึงกับทรงปรารภขึ้นว่า “เอ...ชอบกลอยู่นะ เราอยู่ที่นี่มานาน ตั้งแต่เกิดมาจนแก่ปูนนี้ ก็ยังไม่เคยลงมาตามทางนี้เลย”
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 20
ครั้นลูกได้ครองราชย์ พรั่งพร้อมด้วยโอรสธิดาแล้วจึงค่อยออกบรรพชาในภายหลังเถิดนะลูก บัดนี้ลูกยังอยู่ในช่วงปฐมวัย จะมาบวชอยู่ในป่าแต่ผู้เดียวจะมีประโยชน์อะไรเล่า ( พระเตมียโพธิสัตว์จะตรัสตอบเช่นไร...)